โรนัลโด้ยังฟันร่วง, ใช้ปืนเพนท์บอลยิงชาวบ้าน...... เปิดพฤติกรรมบ้าสุดขั้ว โธมัส กราเวอเซ่น มีนักฟุตบอลมากมายที่มีประวัติในการทำเรื่องแปลกๆ มากมาย แต่สำหรับในกรณีของ โธมัส กราเวอเซ่น กองกลางพันธุ์ฮาร์ดแมนชาวเดนมาร์ก ต้องบอกว่ามีวีรกรรมในระดับบ้าสุดขั้วโลกทั้งการใช้ปืนเพนท์บอลไล่ยิงชาวบ้าน, เล่นแพลงๆ มากมายซึ่งคนปกติทั่วไปไม่ทำกัน

    กราเวอเซ่น ได้รับฉายาน่ารักน่าชังว่า "แมด ด็อก" หรือ "ไอ้หมาบ้า" แต่ถ้าหากให้พูดแบบแฟร์ๆ ทั้งหมดที่เขาทำฉายานี้สมควรเป็นมากกว่าแค่สมญานามของเขาจริงๆ ไม่เชื่อลองไปถาม โรบินโญ่ กับ โรนัลโด้ สองสตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน ที่เคยโดนทีเด็ดของแข้งเลือดโคนมมาแล้ว

    ขณะเดียวกัน กราเวอเซ่น ไม่เคยแคร์ว่าเพื่อนร่วมทีมจะรู้สึกยังไง เขาเคยใช้ความรุนแรงกับพวกเขาด้วยปืนเพนท์บอล, พลุไฟ และการแกล้งแบบแปลกๆ สุดห่าม อย่างการใช้ลูกอัณฑะของเขาห้อยโตงเตงต่อหน้าบรรดาเพื่อนนักเตะ ซึ่งไม่มีชาวบ้านที่ไหนเขาทำกัน (พอล แกสคอยน์ ยังไม่กล้าทำเลย)

    กราเวอเซ่นน ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน แต่ชื่อเสียงในเรื่องการเป็นคนหัวแข็งมีมาเนิ่นนานก่อนที่จะย้ายมาเล่นในลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ การเป็นพ่อค้าแข้งของเขาเริ่มต้นกับ เวเจิล บอลด์คลับ ทีมในบ้านเกิดเมื่อช่วงกลางยุค 90 ซึ่งในเวลานั้นเขายังมีทรงผมสีบลอนด์ปนดำเต็มกบาล และเจาะหูซะด้วย

    จากนั้น กราเวอเซ่น ย้ายมาเล่นกับ เอฟเวอร์ตัน ช่วงซัมเมอร์ปี 2000 โดยบรรดาเครื่องประดับกับเส้นผมของเขาหายไปหมด แต่ทดแทนด้วยพฤติกรรมส่วนตัวที่สุดประหลาดที่ค่อยๆ เพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ โบ โยฮานส์สัน อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติเดนมาร์ก เป็นคนแรกๆ ที่ตั้งฉายา "บ้าสุดขั้ว" ให้กับเขา

    กราเวอเซ่น ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นสมัยวัยรุ่นช่วงเล่นให้เวเจิล จนทำให้เขาได้รับโอกาสย้ายไปเล่นกับ ฮัมบูร์ก ในปี 1997 ฟอร์มการเล่นของเขาใน บุนเดสลีกา สร้างความประทับใจมากๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้รับโอกาสติดทีมชาติเดนมาร์กในช่วงระหว่างปี 1998-2006 ด้วยสถิติติดธง 66 แมตช์ ยิงได้ 5 ประตู แล้วมีอะไรเด็ดๆ ที่มาจากตัว กราเวอเซ่น ล่ะ ?

    ในปี 2002 กราเวอเซ่น มีส่วนพัวพันกับการเล่นพิเรนท์ในสนามซ้อมซึ่งนำไปสู่การทะเลาะกันอย่างรุนแรง ในช่วงระหว่างเตรียมตัวสำหรับลงแข่งฟุตบอลโลก เขากับ  สติก ทอฟติ้ง ซึ่งเป็นแข้งฮาร์ดแมนเช่นกัน แกล้ง เยสเปอร์ กรุนชาร์ โดยบีดน้ำในขวดพลาสติกใส่เขาพร้อมกับยัดก้อนน้ำแข็งใส่ในกางเกงขาสั้น 

    การเล่นแผลงๆ แบบนี้ กรุนชาร์ ไม่ได้รู้สึกตลกไปด้วยซึ่งหลังจากนั้นเขาต้องไปพบกับแพทย์ประจำทีมชาติเนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ตา เขาเปิดฉากด่ากราดใส่ ทอฟติ้ง กับ กราเวอเซ่น ก่อนจะมีเรื่องกับฝ่ายแรก สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสื่อสามารถถ่ายภาพเอาไว้ได้ และนำออกมาแฉให้โลกลูกหนังได้เห็น โดยเจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "นักเตะเหล่านี้ต้องมีคุณครูระดับโรงเรียนอนุบาลคอยดูแลพวกเขา"

    นอกจากนี้ "ไอ้หมาบ้า" ยังสร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับของเขาได้พบกับ ไมค์ ไทสัน ตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวท โดย "ไอรอนแมน" ประทับใจฟอร์มการเล่นของ กราเวอเซ่น มากๆ ในเกมที่ช่วย "โคนม" ถล่ม ไอซ์แลนด์ 6-0 เกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่ง ไทสัน ได้ขอเสื้อของเขา และเขาก็สวมชุดนั้นตอนที่อยู่ในประเทศเดนมาร์ก

    อีกปีถัดมา กราเวอเซ่น ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากที่มีพฤติกรรมคึกคะนองในสนามซ้อม ครั้งนี้เกิดในขึ้นในช่วงฝึกซ้อมร่วมกับทีมชาติเดนมาร์ก เมื่อ กราเวอเซ่น กระโดดทับ คลุส เยนเซ่น ที่ท้องของเขา ตอนที่การนอนคร่อมมิดฟิลด์ชาร์ลตัน เขาได้ถลกกางเกงตัวเองขึ้นมา เผยให้เห็น "ความเป็นชาย" ของเขาห้อยโตงเตงซึ่งอยู่ห่างศีรษะของ เยนเซ่น เพียงไม่กี่นิ้ว

    เหตุการณ์นี้ช่างภาพกดชัตเตอร์ได้ทันพอดี โดย กราเวอเซ่น ได้ขอโทษเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวในช่วงที่มีการนั่งแถลงข่าว โดยเขากล่าวว่า "มันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น แต่สุดท้ายก็เป็นพฤติกรรมที่งี่เง่าจริงๆ ผมไม่รู้ว่าจะมีคนถ่ายภาพนี้เอาไว้ได้"

    ขณะที่ มอร์เท่น โอลเซ่น เทรนเนอร์ทัพ "โคนม" ในเวลานั้น กล่าวเสริมว่า "มันเป็นการกระทำที่โง่เง่ามากๆ และก็เป็นพฤติกรรมที่แสนไร้ค่าสิ้นดีสำหรับนักเตะที่ติดทีมชาติ และเราต้องมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ รวมทั้งมันจะต้องเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้น"

    พฤติกรรมสุดระห่ำของ กราเวอเซ่น ไม่ได้มีอยู่ในทีมชาติเท่านั้น ที่ เอฟเวอร์ตัน เขาก็แสบสุดๆ ไม่แพ้กันอย่างการใช้เล่ห์เหลี่ยมในการเอากำปั้นกระหน่ำชกศีรษะตัวเองจนกระทั่งมีรอยปูดบวมขึ้นบนหัวล้านเลี่ยนเตียนโล่งของเขา แน่นอนว่าการกระทำในสนามซ้อมของเขา เพื่อนร่วมทีมและสตาฟฟ์โค้ช รวมทั้งแฟนบอลรู้ว่าต้องระมัดระวังเมื่ออยู่ร่วมกับ กราเวอเซ่น

    มิค ราธโบน นักกายภาพบำบัดเอฟเวอร์ตัน เรียก กราเวอเซ่น ว่านักเตะบ้าสุดขั้ว โดยมีการเปิดเผย  2 เรื่องเด็ดภายในหนังสือ The Smell of Football  ของเขาซึ่งสนับสนุนฉายาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี "ทันทีที่ผมพาตัวเขาไปสแกน และเราต้องจอดรถเพื่อเติมน้ำมัน ทอมมี่ ออกมาจากรถ และยืนถัดจากผมขณะที่ผมกำลังเติมน้ำมัน จากนั้นเขาก็เดินตามผมมาที่ร้าน และยืนถัดจากผมตอนจ่ายเงิน เขายังคงเดินตามหลังผมไปที่รถ และกลับเข้าไปนั่งในรถ โดยที่ไม่มีอะไรซักคำ"

    นอกจากนี้ ราธโบน ยังบอกอีกว่า กราเวอเซ่น เหมือนกับคนบ้าเวลาที่อยู่ในสนาม "มีอยู่ครั้งนึงผมรีบวิ่งเข้าไปหาเขา และเขาก็ยิงคำถามใส่ไม่หยุดว่า -มีปัญหาอะไร ? มีอะไร ? นายบอกหน่อยซิว่ะ นายมันงี่เง่า นายเป็นหมอนะโว๊ย !- เขาตะโกนใส่ผมด้วยสำเนียงอังกฤษที่ดีมากๆ แต่กับสำเนียงเดนิช มันทำให้ผมฟังแล้วแทบอยากจะบ้าตาย"

    "ไม่มีอะไรต้องสอนกันเลย ทุกๆ คนสามารถแสดงปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าจะแสดงออกยังไง ผมถาม ทอมมี่ว่า เขาอยากดื่มน้ำไหม นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธเข้าไปอีก เขาตะโกนใส่ผมว่า -ดื่มน้ำอะไร ? ดื่มน้ำบ้าบออะไร ? เกมเพิ่งเล่นไปแค่ 5 นาที นายมันปัญญาอ่อนสิ้นดี-"

     "โชคดีจริงๆ เขาเริ่มค่อยๆ ฟื้นตัวจากอาการบาดเจับ และลุกขึ้นมาได้ ผมจับที่แขนของเขาเพื่อจะประครองเขาไปที่บริเวณริมเส้น และเขาก็โกรธมากๆ -เอามือของนานออกจากแขนชั้นเดี๋ยวนี้ ! รีบเอามืออกไปเลย หรือจะให้ชั้นอัดนายให้ร่วง !- เขาผลักผมกระเด็นไปเลย"

     "สุดท้ายแล้วเราก็ไปถึงบริเวณริมเส้นพอถึงตรงนั้นเขาขอบคุณผมที่ช่วยเหลือ และเริ่มกลับมาสงบจนกระทั่งกลับไปลงสนามต่อ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยมีการพูดถึงอีกครั้ง แต่มันทำให้ผมตกใจมากๆ และผมก็ต้องนั่งสวดภาวนาในซุ้มม้านั่งสำรองว่าอย่างให้ ทอมมี่ เจ็บอีกเลย" 

    ขณะที่ เจมส์ แม็คเฟดเด้น ซึ่งเคยร่วมเล่นกับ กราเวอเซ่น ตอนที่อยู่ในถิ่นกูดิสัน พาร์ค เห็นด้วยว่า ดาวเตะเลือดโคม มีหัวใจที่แกร่งราวกับภูผาหิน "เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ เขาจะเป็นอีกคนเมื่ออยู่เป็นกลุ่ม คุณต้องพยายามหลบหลีกเขาให้ได้ เขาก็เหมือนกับพวกคนไฮเปอร์อยู่เฉยๆ ไม่ได้ เวลาที่อยู่กันแบบตัวต่อตัวเขาจะดูใจดีมากๆ แต่ถ้าอยู่เป็นกลุ่มเขาคือฝันร้ายชัดๆ 

     "มีครั้งนึงผมกับ จิมมี่ ลุมสเด้น เขาอายุเกือบ 60 ปีแล้ว และก็ผมหงอกเต็มหัว โธมัส มักจะจับเขาเหวี่ยงขึ้นไปบนโต๊ะกายภาพ หรือที่อื่นๆ เขามีสำเนียงสเกาเซอร์-เดนิชที่สยองมากๆ  มีอยู่ครั้งนึงที่เขาบรรจุกระสุนในปืนเพนท์บอล และเริ่มไล่ยิงคนอื่น เขาเคยซื้อดอกไม้ไฟมาที่สโมสรด้วย"

    "ภายในห้องกายภาพบำบัดจะมีหนึ่งในนักกายภาพที่ฟิตที่สุดประจำสโมสร เขาอายุ 50 ปีได้แล้วมั้ง ตอนนั้นเขากำลังวิ่งอยู่กับนักเตะที่มีปัญหาบาดเจ็บ จากนั้น ทอมมี่ ก็ออกมาพร้อมกับพลุจรวดอันเบ่อเร้อและจุดไฟให้มันพุ่งใส่เขา" แม็คเฟดเด้น กล่าว

    ในปี 2005 กราเวอเซ่น ย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวโคตรช็อกแค่ 2.6 ล้านปอนด์ (ราว 117 ล้านบาท) เท่านั้น และไม่มีทางเลยที่เขาจะพลาดโอกาสทำเรื่องห่ามๆ ใส่เหล่าเพื่อนร่วมทีม "กาลาคติกอส" ลองไปถาม โรบินโญ่ ก็ได้เพราะในเดือนสิงหาคม 2006 ดาวเตะพรสวรรค์เลือดแซมบ้ามีเรื่องฟาดปากกับ กราเวอเซ่น ซึ่งเป็นอีกครั้งที่กล้องจับภาพเอาไว้ได้หมด 

    เรื่องนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ในเวลานั้น เผยว่า "พฤติกรรมของเขานะเหรอ ? ผมไม่ชอบเลย เขาอยากให้ทุกคนทำในสิ่งที่เขาต้องการ และผมก็บอกเขาเรื่องนี้ไปแล้ว" 

    ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ กราเวอเซ่น เคย "หมี่เหลือง" กับ โรนัลโด้ ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิล โดยการฟาดปากกันในครั้งนั้นจบลงด้วยการที่ "โล้นทองคำ" ฟันร่วง ยังไม่หมดแค่นั้นมีข่าวลือมากมายเกิดขึ้นในช่วงที่เขาอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว  โดยเพื่อนร่วมทีม "ราชันชุดขาว" ยืนกรานเป็นเสียงเดียวกันว่า แข้งเดนิช โปรดปรานการนำ "อัณฑะ" มาห้อยโตงเตงต่อหน้าเหงื่อแบบไม่คาดฝัน 

     เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเหตุการณ์กับ โรบินโญ่ ท้ายที่สุด กราเวอเซ่น โดนขายไปให้ กลาสโกว์ เซลติก โดย อาเดียน แม็คเกียดี้ ซึ่งเคยเล่นร่วมกับเขาในสกอตแลนด์ เผยว่า "เขาหยุดซ้อมดื้อๆ ผมยังจำได้เลย เขาเอาแต่ยิงประตู ผมก็ตะโกนว่า -ทอมมี่ ! ทอมมี่ ! ทอมมี่ !- เขาหันกลับมา แล้วก็ยิงประตูต่อ จากนั้นเขาก็หยุดบอล แล้วก็พูดว่า -ไม่ต้องตะโกนตอนที่ชั้นยิงประตู เข้าใจไหม ชั้นเกลียดแบบนี้ !มันเป็นเรื่องห่วยแตกที่สุดในการเล่นฟุตบอล ชั้นเกลียดที่สุด !-"

    "ผมก็สวนไปว่า -ทอมมี่ ชั้นแค่ตะโกนขอบอลเท่านั้น- และเขาก็ตอบกลับมาว่า -ไม่ได้ ! ไม่ควรตะโกนตอนที่ใครก็ตามกำลังยิงประตู ! ชั้นเกลียดแบบนี้ !- ผมค่อนข้าสนิทกับเขา เขามักจะแวะมาหา และออกไปเที่ยวกับผม ก็แบบว่าเราสนิทกันเลยทีเดียว แต่ผมจำได้ว่ามีครั้งนึงเราอยู่ในห้องแต่งตัว และ สตรั๊คคั่น ให้ทีมได้มีการพูดคุยกัน เขาพูดจบ และผมก็มองไปที่ทอมมี่ ...ทอมมี่ นั่งอยู่ที่มุ่งพร้อมกับหนังสือพิมพ์ ทุกสายตามองไปที่เขา และก็เลยผ่านไป"

    ยังไม่หมดแค่นั้น แม็คเฟดเด้น ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติสกอตตแลนด์ เผยถึงเรื่องแปลกของเกลอเก่าว่า "เขาไม่ออกไปเที่ยวไหนทั้งนั้น ไม่มีหนี้สิน เขามักจะอยู่ที่แฟตลของ ลี คาร์สลี่ย์ เขาไม่ชอบเป็นหนี้ เขาเคยมีมอเตอร์ไซค์ที่สวยมากๆ แต่ในช่วงฤดูหนาวเขาก็ขายมันทิ้ง และซื้อรถเรโนลต์ เมแกน เหตุผลเพราะมันคือ -รถสำหรับฤดูหนาว- ในช่วงซัมเมอร์เขาจะใส่รองเท้าบูธคู่ใหม่ยี่ห้อฮุมเมิล แต่ในฤดูหนาวเขาก็จะหาซื้อพวกรองเท้าหนังมาใส่ และเรียกพวกมันว่า -รองเท้าสำหรับฤดูหนาว- ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่รองเท้าบูธด้วยซ้ำ" 

    แม้จะมีพฤติกรรมบ้าระห่ำและแปลกประหลาด แต่มีรายงานว่า อดีตกองกลางทีมชาติเดนมาร์ก มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลมในเรื่องการลงทุนด้านการเงินมากๆ และนั่นทำให้ตอนน้เขามีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,600 ล้านบาท) โดยตอนี้ กราเวอเซ่น วัย 42 ปีใช้ชีวิตอยู่กินกับ คามิลา เพิร์ส นางแบบสุดเอ็กซ์ชาวเช็ก ในลาสเวกัส ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขามักใช้เวลาอยู่กับการเล่นไพ่โปกเกอร์ และดันทำเงินได้มหาศาลซะด้วยซิ.

            ทอมเม้ง 

เว็บเดิมพันออนไลน์ ที่ดีที่สุด http://www.casathai98.com

Line ID : CASAHOT

โพสต์โดย : nttyzii2003 เมื่อ 6 ก.ย. 2561 06:18:07 น. อ่าน 457 ตอบ 0