footballzod
Menu

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

เจาะตัวเลือกกองกลางที่เหมาะสุดกับระบบ 4-3-3 ของ คล็อปป์

    ตอนนี้หลายๆ คนต่างยกให้ ลิเวอร์พูล คือคู่ปรับสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการชิงชัยโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ หลังจากผลงานของทีมในช่วงเวลานี้ แม้จะเป็นเพียงแค่ต้นฤดูกาลแต่รูปแบบการเล่น รวมทั้งขุมกำลังของ "หงส์แดง" ในเวลานี้น่าเกรงขามที่สุดหากไม่นับ "เรือใบสีฟ้า"

    สำหรับจุดแข็งปั๋งดึ๋งดั๋งตึ๋งตั๋งของ ลิเวอร์พูล คงหนีไม่พ้นเกมรุกโดยเฉพาะในแผงกองกลางที่ต้องบอกได้เลยว่าอุดมไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าฉมัง และสามารถทดแทนกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักเตะคนใดคนหนึ่งเหมือนสมัยที่ทีมยังมีฟิลิปเป้ คูตินโญ่

    การได้ ฟาบินโญ่ กับ นาบี เกอิต้า ซึ่งค่าตัวรวมกันประมาณ 95 ล้านปอนด์ (ราว 4,275 ล้านบาท) ยิ่งทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีขุมกำลังเชิงลึกฝีเท้าชั้นยอดให้เลือกใช้งานได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้นจึงไม่แปลกเลย ที่ "หงส์แดง" จะได้รับการเชิดชูเหลือเกินในเวลานี้

    อย่างไรก็ตามการมีกองกลางสุดแกร่งอยู่ในทีมหลายคน แต่ทีมจำเป็นต้องส่งลงสนามได้เพียง 3 คนเท่านั้นในแผงมิดฟิลด์ ตามแผนที่ คล็อปป์ มักนิยมใช้นั่นก็คือระบบ 4-3-3 แล้วใครล่ะที่เหมาะจะเป็นตัวจริง ? นี่คือคำถามที่ กุนซือเลือดด๊อยท์ช ต้องตอบ แต่ดูเหมือนคงไม่ยากสำหรับเขาเท่าไหร่


1. นาบี เกอิต้า  

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    หลังจากสองเกมแรกตอนนี้ นาบี เกอิต้า แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือการเซ็นสัญญาที่ดีเยี่ยมของสโมสร กองกลางชาวกินี โชว์ฟอร์มครบเครื่องในเกมดับซ่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ ต้องยอมรับว่านักเตะรายนี้มีครบทุกอย่างทั้งความนิ่ง, การคิดสร้างสรรค์, พละกำลัง และนี่คือสิ่งสำคัญที่เติมเต็มผลงานทัพ "หงส์แดง"
 

2. ฟาบินโญ่

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินจำนวน 43 ล้านปอนด์ (ราว 1,935 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์นี้แต่นักเตะยังไม่ได้สัมผัสเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษเลย อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่ ฟาบินโญ่ จะได้ลงสนามแมตช์ปะทะแข้ง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในสัปดาห์นี้

    เขาเป็นกองกลางตัวรับ ซึ่งสามารถขยับไปเล่นแบ็กขวาได้เหมือนที่เคยทำสมัยค้าแข้งกับ โมนาโก ขณะเดียวกัน ดาวเตะเลือดบราซิเลียน มีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งทำให้นักเตะสามารถช่วยสกัดกั้นการโจมตีของคู่แข่งด้วยการยืนอยู่ด้านหน้าแผงกองหลังแบ็กโฟร์ "เดอะ เร้ดส์"

    ฟาบินโญ่ ยังมีความสามารถในการครองบอลได้ดีเยี่ยม และมีดีในการเล่นจังหวะสวนกลับ รวมไปถึงการชิพบอลข้ามแผงหลังคู่แข่งเพื่อให้กองหน้าของลิเวอร์พูล ได้สร้างโอกาสในการทำประตู


3. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน  

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    น่าเศร้าจริงๆ ที่อดีตดาวเตะ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไม่สามารถลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ หลังจากได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ตอนที่ฟิตสมบูรณ์ ดาวเตะวัย 25 ปีทำให้ คล็อปป์ ได้สิ่งที่ขาดหายไปจากกองกลางคนอื่นๆ นั่นก็คือ ศักยภาพในการทำประตู

    ในแมตช์พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทุกๆ คนคงได้เห็นสายตาที่เฉียบคมในการทำประตูของเขากันแล้ว แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่ในอนาคต แชมเบอร์เลน อาจจะขยับขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้า

    อย่างไรก็ตามสำหรับ ลิเวอร์พูล แล้ว ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษ เหมาะสมกับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งสามารถลากบอลจากแดนตัวเอง และวิ่งทะลุทะลวงเกมรับคู่แข่งได้ และในตำแหน่งนี้มันทำให้เขาเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ทางเลือกที่สี่ในการทำประตูของ คล็อปป์
 

4. เจมส์ มิลเนอร์

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    จากการจุติของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ทำให้ คล็อปป์ ได้เพชรเม็ดงามอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ที่กลับมาเล่นในตำแหน่งที่ถนัดของเขาในฤดูกาลนี้ สำหรับสองเกมแรกของซีซั่น มิลเนอร์ แสดงให้เห็นเลยว่าเขาไม่เคยมีอาการเหนื่อยล้าสามารถวิ่งได้ตลอด และทุ่มเทแบบเต็มสูบ ที่สำคัญยังเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัว ทำให้สาวก "เดอะ ค็อบ" คาดหวังว่าเขาจะเล่นให้กับทีมไปอีกหลายๆ ปี

    ศักยภาพของ มิลเนอร์ ในวัย 32 ปีมีเหลือล้นจริงๆ โดยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเขามีสถิติแอสซิสต์ 9 ครั้งใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นสถิติของทัวร์นาเมนต์นับตั้งแต่ฤดูกาล2003/04 ซึ่งเป็นซีซั่นที่มีการจดบันทึกสถิติอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันการเล่นลูกเซตเพลย์ก็ยังคงน่ากลัวอย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะจุดโทษ)
 

5. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน  

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    กองกลางสไตล์ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ หรือมิดฟิลด์ที่คอยคุมเกมทั้งรับ และรุกสำหรับ ลิเวอร์พูล ตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรครั้งแรก โดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกเปลี่ยนแปลงสไตล์ภายใต้การกุมบังเหียนของนายใหญ่ชาวเยอรมัน เมื่อเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับ ฟาบินโญ่

    เฮนเดอร์สัน ได้เติมเต็มศักยภาพในตำแหน่งนี้ตอนที่เขาเล่นให้ อังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย "เฮนโด้" เป็นตัวขับเคลื่อนให้ทัพ "สิงโตคำราม" ด้วยการผ่านบอลที่แม่นยำ ขณะเดียวกันก็มีพลังเหลือเฟือในการวิ่งคุมพื้นที่

    ดาวเตะเลือดผู้ดี เป็นหัวใจในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล และในฐานะกัปตันทีม เขาเป็นคนที่ความเป็นผู้นำ และมีทักษะในการจัดการซึ่งสิ่งนี้ทำให้ยากที่จะตัดเขาออกจากทีมได้จริงๆ
 

6. จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม   

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    ก่อนหน้านี้ ดาวเตะเลือดดัตช์ คงต้องเจอกับเรื่องที่แสนยากลำบากในการสอดแทรกเป็นตัวจริงของทีมในฤดูกาลนี้ แต่ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในแมตช์พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ ทำให้ คล็อปป์ ต้องปวดหัว (ในด้านบวก) จากการมีตัวเลือกในเกมรุกที่ดีเยี่ยมเพิ่มอีกคน

    ไวจ์นัลดุม เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับทั้ง 2 แมตช์ ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาคุ้นเคย แต่ความสามารถในการควบคุมหลายๆ สิ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ฉลาดมากๆ ทั้งการครองเกม และเติมเกมบุก

    นอกจากนี้ อดีตดาวเตะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังพร้อมที่จะพาบอลขึ้นไปข้างหน้าเพื่อหาช่องทำประตู และการผ่านบอลที่ชาญฉลาดให้กับแนวรุกทั้ง 3 คนของทีม (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์) ทั้งในและนอกกรอบเขตโทษ นั่นทำให้ ไวจ์นัลดุม เป็นนักเตะที่ล้ำค่ามากๆ สำหรับ คล็อปป์ ในซีซั่นนี้


7. อดัม ลัลลาน่า  

เจาะตัวเลือกแดนกลางคล็อปป์กับระบบ4-3-3

    ลัลลาน่า ได้ลงเล่นเพียงแ 12 เกมเท่านั้นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา รวมทั้งได้ลงสนามในนาทีที่ 87 แมตช์ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 ต้องบอกว่านี่คือนักเตะที่แทบจะโดนลืมไปแล้ว เขาถือว่าเป็นเพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์ในการสร้างความแตกต่างให้กับทีมชุดนี้ เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีความหลากหลาย และมั่นใจในฝีเท้าตัวเองมากๆ

    อดีตสตาร์ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน สามารถเล่นได้ในทุกๆ ตำแหน่งแดนกลาง แต่ที่อันตรายที่สุดก็คือการให้เขาได้มีอิสระในการเติมเกมรุก ซึ่งนั่นจะทำให้ ลัลลาน่า งัดศักยภาพชั้นยอดของเขาออกมา โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์โอกาสทำประตู

    อย่างไรก็ตามมีคำถามเดียวเท่านั้นสำหรับตัวเขาก็คือเรื่องสภาพความฟิต ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ลัลลาน่า จำเป็นต้องพัฒนาเรื่องนี้ในช่วงหลายๆ สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง


เว็บเดิมพันออนไลน์ ที่ดีที่สุด www.okvegus.com

Line ID : @okvegus

โพสต์โดย : GM BOYY GM BOYY เมื่อ 25 ส.ค. 2561 17:18:03 น. อ่าน 497 ตอบ 0

facebook