footballzod
Menu

เรือใบดุ หลังตบสโต๊คแบบไม่ไว้หน้า 7-2 แม้ขาด เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน

ผลการแข่งขันฟุตบอล
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 8
คืนวันที่ 14 ตุลาคม 2017
จบเกม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7-2 สโต๊ค ซิตี้
สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม

 

  แมนฯ ซิตี้ ยึด 11 ตัวจริงจากเกมชนะ เชลซี 1-0 เมื่อปลายเดือนก่อน ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล  เชซุส และ ลีรอย ซาเน่ เป็น 3 แนวรุก แถมได้ เซร์คิโอ อเกวโร่  หายเจ็บซี่โครงจากอุบัติเหตุรถชนกลับมาเป็นสำรองด้วย ฝั่ง สโต๊ค ซิตี้ ปรับ 2 จุด โธมัส เอ็ดเวิร์ดส์ แบ็กขวาวัย 18 ปี ได้ประเดิมใน พรีเมียร์ลีก กับ เฆเซ่ โรดริเกซ ค้ำหน้าเป้า

 เริ่มเกมได้ 9 นาที “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสทอง เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษ เควิน วิมเมอร์ สกัดไม่ดีไปเข้าทาง ลีรอย ซาเน่ เลือกยิงเหินข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง

GOAL !!! นาทีที่ 17 เรือใบดุได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนไหลให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่สอดขึ้นมาในเขตโทษ และเปิดต่อให้กับให้ กาเบรียล เชซุส โฉบเข้ามายิงโล่งๆเข้าไป เรือใบนำ 1-0    2 นาทีต่อม

GOAL !!! นาทีที่ 19 แมนฯซิตี้ ได้ประตูนำห่าง จากจังหวะ เลรอย ซาเน ไหลบอลคืนให้ เควิน เดอ บรอยน์ หน้ากรอบเขตโทษทีมเยือน ก่อนที่มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมจะจ่ายทะลุช่องคืนให้ปีกเยอรมันหลุดเดี่ยวและจ่ายกลับมาตรงกลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เลือกมุมยิงเข้าไปง่ายๆ สกอร์เป็น 2-0

GOAL !!! นาทีที่ 27 สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อกาเบรียล เชซุส แทงทะลุช่องให้ เลรอย ซาเน ในฝั่งซ้ายของเขตโทษช่างปั้นหม้อ ก่อน ซาเน จะเปิดเข้ามาให้ ราฮีม สเตอร์ลิงจ่ายกลับมาตรงกลางทันที ให้ ดาบิด ซิลบา ที่ทำท่าจะจับบอลไม่อยู่ แต่ยังตามจิ้มบอลเข้าไปได้

ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะ มาเม บิรัม ดิยุฟ กระชากหนี ฟาเบียน เดลฟ์ ที่ถูกจับมายืนแบ็คซ้ายและจ่ายตัดเข้ามาให้ เฆเซ โรดริเกวซ ก่อนจะตอกส้นคืนให้ ดิยุฟ ตามเข้ามายิง บอลเแฉลบ เดลฟ์ ที่ตามมาบล็อคเปลี่ยนทางเข้าไป เอแดร์สัน หมดสิทธิ์เซฟ จบ 45 นาที แมนฯ ซิตี้ 3 สโต๊ค ซิตี้ 1

GOAL !!! นาทีที่ 47 ทีมเยือนได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะเล่นลูกทุ่ม โธมัส เอ็ดเวิร์ดส แบ็คขวาดาวรุ่งวัย 18 ปีที่ได้ประเดิมสนามเป็นเกมแรกให้กับช่างปั้น โชว์กระชากหนี เลรอย ซาเน และเปิดเข้ามาในเขตโทษให้ มาเม บิรัม ดิยุฟ ขึ้นโขก บอลไปโดนหน้าตัก ไคล์ วอล์คเกอร์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

GOAL !!! นาทีที่ 56 เจ้าบ้านได้ประตูนำห่างอีกครั้ง จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ฉกบอลได้จากแนวรับทีมเยือน ก่อนกระชากมาทางขวา และเปิดเรียดถวายพานให้ กาเบรียล เชซุส แปเสยตาข่ายเข้าไปอย่างหมดจด สกอร์ขยับเป็น 4-2

GOAL !!! 60 ซิตี้ ได้ประตูเพิ่มเป็น 5-2 จากจังหวะ ฟาเบียน เดลฟ์ ไหลบอลสั้นๆให้กับ แฟร์นันดินโญ แต่งหนึ่งจังหวะก่อนตั้งป้อมซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสยใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม แจ็ค บัตแลนด์ จนปัญญาเซฟ

GOAL !!! นาทีที่ 63 เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลอยู่ทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจ่ายตัดแนวรับ สโต๊ค ได้อย่างเฉียบขาดให้ เลรอย ซาเน ยิงลอดหว่างขา แจ็ค บัตแลนด์ เข้าไป สกอร์ขยับเป็น 6-2

 

GOAL !!! นาทีที่ 79 เจ้าบ้านมาได้ประตูเพิ่มอีกเป็น 7-2 จากจังหวะ ยายา ตูเร่ ตัวสำรองที่ลงมาแทน แฟร์นันดินโญ จ่ายยัดให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ในเขตโทษ ก่อนจะจ่ายต่อให้ แบร์นาโด้ ซิลวา ตัวสำรองที่ลงมาแทน กาเบรียล เชซุส แต่ไปติด เคิร์ท ซูมา ในจังหวะแรก ก่อนจ่ายอีกครั้ง คราวนี้ถึง ซิลวา ลากไปยิงง่ายๆ


จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที เรือใบดุ ถล่ม สโต๊ค ซิตี้ 7-2 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 8 นัด มี 22 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นเป็นจ่าฝูงเช่นเดิม ส่วน ช่างปั้นหม้อ แข่ง 8 นัด มี 8 คะแนน ร่วงลงมาอยู่อันดับ 15

 

www.b0ll0nair.com

โพสต์โดย : เจนจิรา เจนจิรา เมื่อ 15 ต.ค. 2560 07:13:33 น. อ่าน 475 ตอบ 0

facebook