เจมส์ มิลเนอร์ มิดฟิลด์จอมเก๋าของ ลิเวอร์พูล ยืดอกยอมรับว่าตนสมควรถูกตำหนิมากกว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในจังหวะที่โดน ฟูแล่ม ตีเสมอ พร้อมยิ้มหน้าบานที่แก้ตัวได้สำเร็จเมื่อสวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษนำทีมบุกชนะ “เจ้าสัวน้อย” เกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
พร้อมน้อมรับคำตำหนิจากการที่มีส่วนทำให้ “หงส์แดง” เสียประตูในเกมเฉือน”เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม 2-1 ที่สนามคราเวน ค็อตเทจ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา
จนกระทั่งได้ประตูนำจาก ซาดิโอ มาเน่ ในช่วงกลางครึ่งแรก หลังจากนั้นในครึ่งหลังทีมเยือนก็ยังครองเกมได้ตลอด แต่แล้วพวกเขาดันเล่นผิดพลาดเมื่อ มิลเนอร์ พยายามเคลียร์บอลทิ้งแต่ดันไปโดนผิดเหลี่ยมก่อนที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะโหม่งคืนให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ในจังหวะถัดมาแต่เบาไปทำให้ ไรอัน บาเบิล วิ่งมาแย่งบอล และทำประตูตีเสมอได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม มิลเนอร์ มาแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อเป็นคนซัดจุดโทษเป็นประตูชัย
ให้ ลิเวอร์พูล คว้า 3 คะแนนสำคัญ และนำพวกเขาแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจบเกม ฟาน ไดค์ โดนตำหนิเกี่ยวกับการเล่นที่ผิดพลาดทำให้ทีมเสียประตู แต่สำหรับเรื่องนี้ มิลเนอร์ เผยว่าจริงๆ แล้วความผิดทั้งหมดน่าจะเป็นเพราะตนเอง
มิลเนอร์ กล่าว
“ผมรู้สึกว่าประตูนั้นบางทีผมควรถูกตำหนิ ผมเป็นคนที่ทำให้เขา (ฟาน ไคด์) ต้องเจอกับปัญหา เจ้านายเคยพูดเอาไว้ว่าพยายามเล่นให้นิ่ง แต่ผมดันทำให้ เฟอร์กิล ต้องเจอกับความกดดัน ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่โชคดีมากพอที่เราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ”
ขณะเดียวกัน อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ สามารถแก้ตัวได้ดีเยี่ยม
เมื่อขัดอาสารับหน้าที่ยิงจุดโทษให้ทีมและก็ไม่ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” ต้องผิดหวัง “มันเป็นประตูที่สำคัญมากๆ และเป็นการชดเชยสำหรับความผิดพลาดในจังหวะที่ถูกยิงตีเสมอ คุณต้องกลับมาทำให้สิ่งที่คุณฝึกซ้อมมาตลอด นั่นก็คือความนิ่ง และทำในสิ่งที่คุณต้องทำ”
แหล่งข้อมูล : siamsport
อ่านข่าวเกี่ยวกับบอลได้ที่ www.casa982.com
โพสต์โดย : ploysai555
